04 เมษายน 2566
เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2566 บริษัท ภูฟ้า เอ็นเตอร์ไพรส์จำกัด
พัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ตามแนวคิด ESG
บริษัท ภูฟ้า เอ็นเตอร์ไพรส์ เล็งเห็นความสำคัญของพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการคำนึง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ตามแนวคิด ESG ส่งเสริมพนักงานจัดกิจกรรมดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการปลูกต้นไม้ ทำแปลงผักสวนครัว พนักงานของบริษัท ภูฟ้า เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
พนักงานของบริษัท ภูฟ้า เอ็นเตอร์ไพรส์ฯ ใช้เวลาว่างร่วมกันปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในพื้นที่ของสำนักงานใหญ่ “ภูฟ้า เอ็นเตอร์ไพรส์” และบริเวณโดยรอบศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ
“ภูฟ้า เรสท์โฮม” เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความร่มรื่นและเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศโดยรอบ รวมทั้งร่วมกันจัดทำแปลงพืชผักสวนครัว เพื่อนำผลผลิตส่วนหนึ่งมาประกอบอาหารให้แก่ผู้เข้ารับบริการเลิกยาเสพติด และมอบให้สำหรับพนักงานและครอบครัว
กิจกรรมปลูกต้นไม้และจัดทำแปลงพืชผักสวนครัว เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งของ
“ภูฟ้า เอ็นเตอร์ไพรส์” ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืนโดยไม่หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว สอดคล้องกับแนวคิด “ESG” ที่เกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน มีความเชื่อมโยงและเกื้อหนุนกัน พร้อมช่วยสนับสนุนธุรกิจให้เติบโตอย่างมีความรับผิดชอบและเพื่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยในปัจจุบัน ESG ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก เนื่องจากเป็นแนวคิดที่นักลงทุนใช้ประกอบการพิจารณาลงทุน
โดยจะให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจ ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย
E = Environment (สิ่งแวดล้อม) คือ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการรักษา
และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจ
S = Social (สังคม) คือ การบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กรอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม คำนึงถึงสภาพแวดล้อมในการทำงานและสุขภาพของพนักงาน ไปจนถึงลูกค้า ชุมชน และผู้ที่ทำงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)
G = Governance (ธรรมาภิบาล) คือ การดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ ต่อต้านการทุจริต
มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี และดูแลผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทอย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้ แนวคิด ESG ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ และการนำเสนอผลการดำเนินงานในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ในปัจจุบันนักลงทุนทั้ง นักลงทุนบุคคล (Individual Investor) และนักลงทุนสถาบัน (Institutional Investors) ต่างให้ความสำคัญมากขึ้นในการลงทุนแบบยั่งยืน หรือการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีการดำเนินงานตามกรอบแนวคิดความยั่งยืน ESG
โดยการศึกษาจาก State Street Global Advisors ในปี 2560 ได้ทำการศึกษากับผู้ลงทุนสถาบันทั้งหมด 475 องค์กรในทวีป สหรัฐอเมริกา ยุโรป และ เอเชียแปซิฟิก ซึ่งผลของการสำรวจพบว่า พอร์ตการลงทุนของผู้ลงทุนสถาบันส่วนใหญ่ร้อยละ 80 มีการจัดสรรเงินลงทุนไปกับองค์กรที่มีการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG และยังมีผลการศึกษาจาก Financial Planning Association ซึ่งเป็นการศึกษาในปี 2563
โดยได้ทำการสำรวจกับผู้ให้คำแนะนำทางการเงิน (Financial Advisor) จำนวน 242 ราย ในประเทศสหรัฐอเมริกาผลการศึกษาพบว่า ในปี 2563 ผู้แนะนำทางการเงินมีการแนะนำนักลงทุนหรือได้ลงทุนด้วยตัวเองในกองทุนแบบ ESG มากขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ผลการวิจัยจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเผยว่า การลงทุนที่เน้นความยั่งยืนอาจนำมาซึ่งผลตอบแทนที่มากขึ้น ซึ่งผลจากการทดลองจัด portfolio บริษัทจดทะเบียนไทยตามดัชนี DJSI ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่า portfolio ดังกล่าว ให้ผลตอบแทนรวมสะสม 51%
ซึ่งมากกว่าดัชนี SET100TRI ที่ใช้เปรียบเทียบอยู่ 13%
โพสต์เมื่อ 26 มิถุนายน 2567
โพสต์เมื่อ 20 พฤษภาคม 2567
โพสต์เมื่อ 09 พฤษภาคม 2567